อาการต่าง ๆ ของโรคกระดูกสันหลังที่เป็นแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะนอกจากจะทำให้มีอาการ เจ็บปวดเรื้อรังแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความสูญเสียอย่างถาวรได้ด้วย
1. อาการปวดหลังร้าวลงขา
อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกบริเวณเอวปลิ้นออกมาทับเส้นประสาทที่ควบคุมและรับความรู้สึกบริเวณขาอาการปวดมักรุนแรงขณะนั่ง เมื่อนานเข้าขาจะเริ่มชาเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งแปล๊บ ๆ ภายในในขากล้ามเนื้อข้อเท้าและต้นขาจะอ่อนแรงลงในที่สุด
2. ปวดคอร้าวลงแขน
อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกหรือกระดูกต้นคอเสื่อมจนกดทับเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและรับความรู้สึกของแขน เมื่อเป็นมากจะยกแขนได้ลำบาก และรู้สึกชาตลอดเวลา
3. เสียการทรงตัว เดินเซ สะดุดล้มบ่อย
อาการที่ดูเหมือนเป็นอาการของผู้สูงอายุนอกจากนั้นยังไม่ค่อยแสดงอาการปวด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงรอให้อาการเป็นมากก่อนจึงมาพบแพทย์ อาการเหล่านี้อาจหมายถึงไขสันหลังที่ถูกกดทับที่ถูกซุกซ่อนอยู่กรณีนี้อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ภาวะอัมพาตได้
4. ปวดหลังรุนแรงในท่านอน
โรคกระดูกสันหลังโดยทั่วไปมักเกิดอาการขณะนั่งหรือเดิน และมักดีขึ้นหรือหายไปเมื่อนอนลง อาการปวดหลังรุนแรงขณะนอนราบเป็นอาการที่พบได้น้อยแต่อาจหมายถึงโรคเนื้องอกบางชนิดที่ซ่อนอยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจึงช่วยวินิจฉัยได้อย่างดี
5. ควบคุมปัสสาวะ อุจจาระลำบาก
สาเหตุของอาการนี้จากโรคกระดูกสันหลังมีได้หลายอย่าง เช่นการเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงบริเวณกระดูกสันหลัง, หมอนรองกระดูกปลิ้นชิ้นใหญ่ที่กดทับเส้นประสาทหลายเส้น หรือโรคโพรงประสาทตีบแคบขั้นรุนแรง อาการนี้ถือเป็นอาการท้าย ๆ ที่จะเกิดขึ้น เมื่อตัวโรคอยู่ขั้นรุนแรงมักมีอาการปวดเรื้อรัง อาการชาหรืออ่อนแรงบริเวณแขน ขา นำมาก่อน
แนวทางตรวจวินิจฉัยโรค
ในปัจจุบันการตรวจด้วย MRI ถือว่าเป็นวิธีการตรวจที่เป็นมาตรฐาน สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังทุกชนิด ซึ่งมีความละเอียดชัดเจนสามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะมีอาการแสดงได้ ทำให้สามารถรักษาและป้องกันความเสียหายของกระดูกสันหลังได้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่จะลุกลามเสียหายมากขึ้น
ตรวจพบก่อนดีอย่างไร ?
การรักษาโดยการไม่ผ่าตัด เช่น การรับประทานยาแก้ปวดร่วมกับการกายภาพบำบัดที่ถูกต้องมักจะเพียงพอในคนไข้ส่วนใหญ่ แต่เมื่อเส้นประสาทเริ่มสูญเสียการทำงานลงจากการโดนกดทับ การนำสิ่งที่กดทับออกโดยเร็วย่อมจะเปิดโอกาสให้เส้นประสาทได้ฟื้นฟูตัวเองได้ดีกว่า เทคโนโลยีการผ่าตัดปัจจุบันเช่น กล้องเอ็นโดสโคป, เครื่องคอมพิวเตอร์นาวิถี หรือหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด มีส่วนช่วยให้การผ่าตัดปลอดภัยขึ้น แผลที่เล็กลงยังทาให้ผู้ป่วยฟื้นจากการผ่าตัดได้เร็ว และกลับคืนสู่ชีวิตปกติได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย