อาการปวดข้อมือ ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพราะอาการเจ็บข้อมือเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งยังมีรายละเอียดมากมายไม่แพ้เครื่องยนต์กลไลของนาฬิกาข้อมือที่เล็กและละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นเราไม่ควรมองข้ามอาการเจ็บหรือปวดที่ข้อมือ เพราะวิธีการรักษาในแต่ละสาเหตุก็ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมากเช่นกัน
โดยเฉพาะ อาการเจ็บหรือปวดที่ข้อมือ ที่เป็นมานาน ไม่หายสักที คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะตามปกติเเล้ว อาการเจ็บปวดของส่วนต่างๆ ในร่างกาย ควรจะหายเองได้หลังจากได้พักการใช้งาน หรือรับประทานยาลดปวด ลดอักเสบสักระยะหนึ่ง แต่หากอาการปวด หรือบาดเจ็บเหล่านี้ยังคงอยู่กับเรา ไม่บอกลาไปเสียที ย่อมบ่งบอกถึงปัญหาที่ต้องได้รับการวินิจฉัย และรักษาก่อนที่อาการเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง
คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการเจ็บข้อมือเรื่อรังหรือไม่
ไม่ว่ากิจกรรมใดก็ตามที่ต้องการใช้งานข้อมือซ้ำๆในลักษณะเดิมๆ ก็เป็นเหตุที่ทำให้เจ็บข้อมือได้ทั้งนั้น จะเเตกต่างกันก็ตรงที่ส่วนไหนจะได้รับบาดเจ็บเท่านั้นเอง ซึ่งก็ขึ้นกับลักษณะของกิจกรรมที่ทำ แม้กิจกรรมเบาๆ ที่เราคิดไม่ถึงว่าเป็นสาเหตุได้เช่นการทำงานบ้านปกติ เล่นกีฬาที่เล่นเป็นประจำ หรือแม้กระทั่งการทำงานบนโต๊ะทำงานที่เราคิดว่าเเสนจะปกติก็ตาม ซึ่งถ้ามากเกินไปก็อาจเป็นเหตุให้บางจุดเล็กๆ ในข้อมือเราเจ็บป่วยได้โดยไม่จำเป็นต้องเกิดจากอุบัติเหตุหรือการใช้งานหักโหมต่างๆ
อาการปวดข้อมือลักษณะต่างๆ
อาการปวดบริเวณข้อมือ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบางอย่าง การสำรวจตัวเองเบื้องต้นเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะอาการแต่ละแบบอธิบายสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ เช่น
- อาการปวดข้อมือที่เกิดขึ้นตอนกลางคืน หรือในตอนที่ไม่ได้ใช้งาน
- ไม่สามารถหยิบจับ หรือถือสิ่งของได้อย่างที่เคยเป็นมา
- อาการปวดข้อมือที่ยังคงอยู่ แม้ว่าจะผ่านไปหลายวัน รวมทั้งพักการใช้งานแล้ว
- เจ็บปวด หรือ ไม่สามารถยืดหรือเหยียดข้อมือได้
- มีอาการเจ็บปวดบริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น แขน มือ
- มีไข้ บวม แดง ร้อน นอกเหนือจากปวดข้อ
โรคที่พบบ่อยเมื่อเจ็บข้อมือ
อาการเจ็บปวดส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่ส่วนเอ็นรอบๆ ข้อมือ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ เอ็นอักเสบ และเอ็นฉีกขาด ซึ่งจะเป็นตรงจุดไหนก็ขึ้นกับลักษณะการใช้งานเป็นสำคัญ
เอ็นอักเสบ
- ส่วนมากเอ็นที่อักเสบ มักจะเป็นเส้นเอ็นยอดนิยม ซึ่งการวินิจฉัยไม่ยุ่งยาก การตรวจร่างกายก็สามารถให้การวินิจฉัยได้
- ส่วนเอ็นบางจุดที่ไม่ได้เป็นกันบ่อยๆ ทำให้มักถูกมองข้ามไป มักเป็นสาเหตุที่เจ็บเรื้อรังไม่หายสักที เส้นเอ็นที่อักเสบในกลุ่มนี้ จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ในการตรวจจากแพทย์เฉพาะทางด้านมือและข้อมือ หรืออาจจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยภาพวินิจฉัย (diagnostic imaging) ที่เหมาะสม
เส้นประสาทถูกกดทับ
เป็นอาการเจ็บปวดข้อมือแบบหนึ่งที่พบได้บ่อยๆ ซึ่งอาการปวดจากเส้นประสาทถูกกดทับ มักยากจะบอกได้ว่าเป็นจุดใดบริเวณใดชัดเจน นอกจากอาการปวดเเล้ว มักจะมีอาการชา ยุบยิบ เหมือนเป็นเหน็บ หรืออาจพบอาการแสบร้อนบริเวณมือร่วมด้วยได้เช่นกัน
กลุ่มอาการพังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ
- เกิดจากเส้นประสาทในข้อมือถูกเอ็นพังผืดเบียดทับ
- ทำให้เกิดอาการปวดข้อมือ ร่วมกับมีอาการชาที่บริเวณนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และบางส่วนของนิ้วนาง
- ที่เรียกว่ากลุ่มอาการ เพราะว่าผู้ป่วยแต่ละรายมีหลายอาการรวมกัน ทั้งปวด ทั้งชา บางรายเป็นคล้ายเป็นเหน็บ หรือบ้างก็แสบร้อน อาการอาจแตกต่างกัน ไม่เหมือนกันสักทีเดียว ความรุนแรงของอาการก็อาจต่างกันได้
- กลุ่มอาการนี้มักเกิดในคนที่ใช้มือซำ้ๆ เช่น ทำงานบ้าน ทำอาหาร หรือมีกิจกรรมที่ข้อมืออยู่ในท่าเดิมนานๆ เช่น ขับรถ เขียนหนังสือ ใช้โทรศัพท์ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งถือของ หิ้วของเป็นเวลานาน
- หากมีอาการมานานไม่ควรละเลย เพราะการที่เส้นประสาทถูกกดเบียดนานๆ เส้นประสาทอาจจะเสื่อมได้ หรือกล้ามเนื้อที่มือก็อาจจะลีบ ส่งผลต่อการใช้งานของมือข้างนั้น
ถุงน้ำที่ข้อมือ
- ภาวะอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นได้บริเวณข้อมือจากการใช้งานในชีวิตประจำวันซ้ำๆ หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จนเยื่อหุ้มข้อมือฉีกขาด ส่งผลให้น้ำหล่อเลี้ยงในข้อมือรั่วออกมาเกิดเป็นถุงน้ำโป่งออกมาให้เห็น
- ถุงน้ำนี้มักจะอยู่ในบริเวณหลังข้อมือ ซึ่งขนาดของถุงน้ำขนาดอาจจะใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงบ้างบางช่วงเวลา แต่ก็จะไม่ขยายใหญ่จนเป็นอันตราย
- มีอาการเจ็บร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
- หากมีอาการเจ็บไม่หายแม้ได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว หรือมีความกังวลเรื่องความสวยงามและบุคลิกภาพ ก็สามารถผ่าตัดรักษาเพื่อทำให้ซีสต์ถุงน้ำนั้นหายไป
แนวทางการวินิจฉัย
ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อมือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ขอแนะนำให้ตรวจ MRI Wrist (ข้อมือ) เพื่อตรวจดูความเสียหายของเอ็นข้อมือ เพราะสามารถตรวจดูเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรค ได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากที่สุด