พฤติกรรมใด? เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกสันหลัง

อาการปวดหลังเรื้อรังอาจเป็นหนึ่งในอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะของโรคกระดูกสันหลังต่างๆ เช่น ภาวะกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด กระดูกสันหลังเสื่อม เนื้องอกของกระดูกสันหลัง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหลายคนมักเข้าใจผิดว่าโรคเหล่านี้เกิดได้เฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่อันที่จริงวัยรุ่นหรือวัยกลางคนก็มีโอกาสเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้เช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง

เรามาเริ่มกันที่พฤติกรรมแรกนั่นคือ การนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานสำหรับคนทำงานออฟฟิศ คนที่ต้องนั่งขับรถระยะทางไกล โดยหลงลืมที่จะหยุดพักและยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อบ้างเป็นครั้งคราว ต่างก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคนที่หักโหมยกของหนัก ๆ อยู่เป็นประจำ จนเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน โดยอาการของโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทสามารถแบ่งได้ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ดังต่อไปนี้

 

กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่าง

มีผลต่อระบบประสาทส่วนเอวลงไปถึงขา ซึ่งในระยะเริ่มแรกจะมีอาการปวดหลังช่วงเอวแบบเป็น ๆ หาย ๆ ทว่าความปวดจะทวีมากขึ้นตอนยืดกล้ามเนื้อ ขณะก้มเงย หรือยืนเป็นเวลานาน และสำหรับผู้ป่วยที่อาการทรุดหนักขาทั้งสองข้างจะชา ตลอดจนเป็นอัมพาตได้เลยทีเดียว

 

กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทบริเวณช่วงคอ

มีอาการปวดคอ ไม่สามารถขยับเขยื้อนคอได้ตามปกติ โดยในบางครั้งอาจปวดร้าวช่วงแขนทั้งสองข้างหรือข้างใดข้างหนึ่ง ลามไปจนถึงมีอาการชาที่ปลายนิ้วและฝ่ามือ

 

นั่งไขว่ห้าง เสี่ยงต่อ โรคกระดูกสันหลังคด

พฤติกรรมการนั่งไขว่ห้างส่งผลให้เกิดการกดทับน้ำหนักตัวลงบริเวณก้นข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งหากนั่งไปนาน ๆ จะเริ่มมีอาการชา ปวดเมื่อย ตลอดจนส่งผลให้เกิดโรคกระดูกสันหลังคดหรือโค้งงอจนผิดรูปเอาได้ ดังนั้น ไม่แนะนำให้นั่งท่าไขว่ห้างขณะทำงาน แต่ให้นั่งหลังพิงพนักเก้าอี้แทน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปวดหลังในระยะยาวนั่นเอง

 

นั่งก้มหน้ามองจอนานๆ เสี่ยงต่อ ภาวะกระดูกก้านคอเสื่อม

การนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ มีผลทำให้สะบักหัวไหล่ทั้งสองข้างรู้สึกเมื่อยล้าคล้ายกับมีคนเอามือมากดทับเต็มแรง และในไม่ช้าอาการปวดหลังก็จะมาตามในท้ายที่สุด โดยสาเหตุนั้นมาจากการที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเกิดอาการล้า เพราะต้องก้มหน้าหรือเงยคอเพื่อจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ จนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกสันหลังคอเสื่อมสภาพ ซึ่งเราสามารถป้องกันโรคกระดูกสันหลังนี้ได้ ด้วยการลุกออกจากเก้าอี้ทำงานเป็นครั้งคราว ปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ และวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ได้ระดับพอดีกับสายตาเพียงเท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้

 

รับประทานอาหารจนน้ำหนักเกิน เสี่ยงต่อ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม

หากร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักตัวมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมมากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การควบคุมพฤติกรรมการกินอาหาร รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงมีบทบาทในการป้องกันโรคกระดูกสันหลังประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้คนที่รูปร่างผ่ายผอมแม้จะลดโอกาสการเกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมลงได้ แต่หากยังกระทำพฤติกรรมเดิม ๆ เช่น การนั่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การนั่งผิดท่า หรือการออกกำลังกายอย่างรุนแรง เหล่านี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกสันหลัง อย่าง กระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้ด้วยเหมือนกัน

 

แนวทางตรวจวินิจฉัยโรค

ในปัจจุบันการตรวจด้วย MRI ถือว่าเป็นวิธีการตรวจที่เป็นมาตรฐาน สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการวินิจฉัยโรคกระดูกสันหลังทุกชนิด ซึ่งมีความละเอียดชัดเจนสามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะมีอาการแสดงได้ ทำให้สามารถรักษาและป้องกันความเสียหายของกระดูกสันหลังได้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่จะลุกลามเสียหาย

 

แนวทางการรักษาโรคกระดูกสันหลัง

เมื่อพบว่าตนเองมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกสันหลังก็ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถเสียใหม่ หรือหากเริ่มมีอาการปวดหลังขึ้นมาในบางจุด แนะนำให้ทำการวินิจฉัยโรคกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที เพราะหากปล่อยปละละเลยจนอาการทวีความรุนแรงแล้ว วิธีการรักษาขั้นต้นอย่าง การทานยารักษา การกายภาพบำบัด การฉีดยา และการฝังเข็ม (Dry Needling) อาจไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้อีกต่อไป หากแต่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง Endoscope เท่านั้น จึงจะช่วยรักษาอาการของโรคกระดูกสันหลังให้ดีขึ้นได้